ความรู้เรื่องตัวนูนติดรถยนต์ 3D Emblem ข้อดี/ข้อเสีย

   เป็นที่ทราบกันดีว่า รถยนต์ที่เราเห็นบนท้องถนนนั้น ทุกรุ่นทุกยี่ห้อล้วนแล้วแต่มีสัญลักษณ์เฉพาะเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเอง ความเป็นแบรนด์ของตัวเอง สิ่งหนึ่งที่เห็นได้บนรถทุกคันนั่นก็คือ Emblem หรือโลโก้นั่นเอง

   นอกจากโลโก้ที่แสดงแบรนด์แล้ว ยังมีอีกอย่างที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเจาะจงของรถยนต์รุ่นนั้นๆ นั่นคือ ตัวหนังสือ emblem letter ซึ่งไม่ใช่แบรนด์โดยตรง แต่เป็นชื่อของรถรุ่นนั้นๆที่เรียกกันและเข้าใจตรงกัน เราสามารถรับรู้ได้ว่าเป็นรถรุ่นไหน ซึ่งเราก็จะรู้โดยทันทีว่ารถรุ่นนี้เป็นแบรนด์อะไร เช่น Fortuner, Everest, Pajero Sport, Camry, Accord, Altis, Civic และอื่นๆ เป็นต้น

   โดยสิ่งที่เป็นเหมือนกันทั้งหมดคือ ตัวหนังสือจะมีลักษณะเป็นตัวนูน 3D emblem เพื่อความสวยงาม ดูหรูหรา โดดเด่น เพิ่มมูลค่ารถยนต์

   เราจะเห็นอีกอย่างว่า รถยนต์บางรุ่นไม่ได้มีตัวหนังสือติดมาจากโรงงาน แต่ก็มีร้านประดับยนต์ต่างๆทำออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการตรงนี้ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายประเภทตามที่เจอในตลาด After-market ปัจจุบัน เราเลยรวบรวมให้ดูว่ามีประเภทไหนบ้าง และแต่ละประเภทมีข้อดี/ข้อเสีย แตกต่างกันยังไง

1. Injection molding เป็นงานที่คุณภาพดีที่สุด เทียบเคียงกับโรงงาน เพราะใช้ขั้นตอนและวิธีการผลิตเหมือนกันกับตัวหนังสือที่มาจากโรงงาน ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การออกแบบ CAD/CAM, mold design, injection process, plating/painting process , QC inspection, Testing.

ข้อดี

• คุณภาพดีที่สุด เมื่อเทียบกับประเภทอื่น
• ผลิตได้ทีละมากๆ เพราะงาน Injection ใช้เวลาผลิตสั้น
• ผลิตจากพลาสติก ABS เหมือนของแท้
• มีความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ
• ออกแบบให้ความโค้งเว้า แนบสนิทกับตัวรถ
• ผิวเรียบเนียน เงางาม เพราะผลิตจากแม่พิมพ์

ข้อเสีย

• ราคาแพง เพราะต้องลงทุนทำแม่พิมพ์
• ใช้เวลาสร้างแม่พิมพ์นาน ราวๆ 1 เดือน
• เปลี่ยนแปลงตัวหนังสือไม่ได้ เพราะต้องแก้ไขแม่พิมพ์

2. 3D Printing  เป็นการรูปโดยเทคโนโลยีใหม่โดยใช้เครื่อง 3D Printing ส่วนใหญ่จะใช้วัสดุ ABS หรือ PLA thermoplastic มาใช้ขึ้นรูป โดยปกติเราจะใช้ทำโมเดลหรือชิ้นงานตัวอย่าง เพราะมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาและความแข็งแรง แต่ก็มีบางคนใช้ผลิตเพื่อทำขาย

ข้อดี

• ทำตัวหนังสือได้หลากหลาย ได้ตามต้องการ
• สามารถออกแบบให้โค้งนูน เพื่อให้แนบสนิทได้
• ปรับเปลี่ยนรูปแบบและขนาดได้ง่าย แค่ปรับโปรแกรมหัวโรบอท

ข้อเสีย

• ราคาแพง เพราะค่าผลิตของ 3D printing ค่อนข้างสูง
• ใช้เวลาผลิตนาน เพราะทำได้ทีละตัว
• ผิวจะยังไม่เรียบเนียบ ชุปเงาไม่ขึ้น

3. ตัดจากแผ่น Acrylic เป็นการตัดตัวหนังสือเป็นตัวๆ โดยใช้เครื่องตัด CNC หรือเครื่องตัดเลเซอร์ทั่วไป สามารถตัดได้เฉพาะแนวตรง(กว้างและยาว) ตัวหนังสือที่ได้จะแบนเรียบไม่มีความโค้ง ความหนาของตัวหนังสือที่ได้ จะขึ้นอยู่กับความหนาของแผ่นอะคลิลิกที่นำมาตัด

ข้อดี

• ราคาถูก เพราะไม่ต้องลงทุนทำแม่พิมพ์
• ปรับเปลี่ยนรูปแบบและขนาดได้ง่าย แค่ปรับโปรแกรมเครื่องตัด
• ไม่ต้องทำสี เพราะสีจะขึ้นกับแผ่นพลาสติกที่ใช้

ข้อเสีย

• ไม่แนบสนิท หากไปติดบนพื้นผิวที่โค้ง เช่น ฝากระโปรงรถยนต์
• ไม่มีความโค้งนูน ไม่สวยงาม เพราะตัดมาจากแผ่นอะคลิลิกที่เรียบแบน
• ชุบเงาไม่ได้ เพราะพื้นผิวไม่เรียบเงาพอ ชุบได้ก็จะไม่เงางาม
• เศษดินและความชื้นจะเข้าไปฝังในร่องที่ไม่แนบสนิท เกิดสนิมกับตัวรถได้

4. ตัดจากแผ่น Stainless คล้ายกับข้อ2 แต่เปลี่ยนวัสดุที่ใช้เป็นแผ่นสแตนเลส โดยทั่วไปจะใช้เกรด 304 สิ่งที่เหนือกว่าแผ่นอะคลิลิกคือความเงา เพราะผิวสแตนเลสจะเงามาก สะท้อนแสงได้ดี ไม่ต้องนำไปชุบเงาเพิ่มใดๆ

ข้อดี

• ผิวหน้าจะเงามาก 
• ปรับเปลี่ยนรูปแบบและขนาดได้ง่าย แค่ปรับโปรแกรมเครื่องตัด

ข้อเสีย

• ตัวหนังสือบาง เพราะแผ่นสแตนลเสที่นำมาตัดมีความหนาราวๆแค่ 1 มม.
• สะสมความร้อน เพราะธรรมชาติของโลหะ ส่งผลต่อสีรถในระยะยาว
• ไม่แนบสนิท เพราะแผ่นสแตนเลสจะแบนเรียบ
• ขอบที่เป็นมุมจะแหลม มีโอกาสเกิดอันตรายขณะล้างรถได้
• อันตรายต่อคนใช้ถนน ถ้าหากหลุดบนถนน ล้อรถเหยียบแล้วยางรั่วหรือยางระเบิดได้

5. สติกเกอร์ มีทั้งการออกแบบด้วยคอมพิมเตอร์กราฟฟิกและตัดด้วยมือ ติดได้ทุกจุดทุกพื้นผิวบนตัวรถยนต์ ไม่จำกัดขนาด สามารถออกแบบได้ตามความต้องการ

ข้อดี

• ราคาถูก ออกแบบเฉพาะได้
• สีสันสวยงาม ไม่จำกัดพื้นที่
• เข้ารูปแนบสนิท ทุกจุดโค้งเว้า
• ออกแบบได้หลากหลาย ขึ้นกับความต้องการ

ข้อเสีย

• ไม่มีมิติ เพราะสติกเกอร์จะเรียบสนิทกับตัวรถ 2มิติ
• ต้องใช้ฝีมือในการติดตั้ง หากติดพลาดจะลอกออกติดใหม่ยาก
• ใช้ได้ครั้งเดียว ไม่สามารถลอกแล้วเก็บไว้ติดใหม่ได้
• สีซีด เมื่อโดนแดดและความร้อนในระยะยาว

   จากทั้งหมดที่กล่าวมา เราจึงทราบเหตุผลว่าทำไมรถยนต์ที่ผลิตมาจากโรงงานถึงใช้ emblem ที่ผลิตมาจากงาน Injection molding นั่นเพราะว่าคุณภาพ ความสวยงาม ความทนทานในระยะยาวและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรถนั่นเอง