แบตเตอรี่รถยนต์มีแบบไหนบ้าง แล้วควรเลือกใช้แบบไหนดี?

แบตเตอรี่รถยนต์มีแบบไหนบ้าง แล้วควรเลือกใช้แบบไหนดี?

https://pixabay.com/th/photos/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-prius-c-%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-231213/

แบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจหลักของรถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นแหล่งจ่ายไฟไปตามเครื่องยนต์และอุปกรณ์ในส่วนต่างๆ พลังงานจากแบตเตอรี่ทำให้รถสามารถติดได้ การเลือกซื้อแบตเตอรี่จึงถือเป็นเรื่องสำคัญและต้องใส่ใจเรื่องรายละเอียดต่างๆ วันนี้เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแบตเตอรี่ในท้องตลาดว่ามีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไรกันบ้าง

แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีขายอยู่ ในไทย ปัจจุบันมีด้วยกัน 4 ประเภท คือ

1.      แบตเตอรี่แบบน้ำกลั่น

แบตเตอรี่แบบน้ำกลั่น จะเป็นแบตเตอรี่แบบดั้งเดิม ร้านที่จัดจำหน่ายจะทำการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟเองเสมอ  มาตรฐานในการเติมน้ำกรดและชาร์จไฟ จึงเป็นไปในลักษณะที่ไม่แน่นอนเท่าไหร่ เป็นแบตเตอรี่ที่ต้องดูแลเรื่องน้ำกลั่นบ่อยๆ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง แบตเตอรี่ชนิดนี้ทนความร้อนได้สูง มีอายุการใช้งานนานถึง 2 ปี เหมาะกับรถที่ต้องวิ่งนานๆ ขับทุกวัน

ข้อดี : มีราคาที่ถูก มีอายุการใช้งานนาน ทนความร้อนสูง ทนทานต่อการรับโหลดทั้งการประจุและคายประจุ

ข้อเสีย :   ต้องดูแลระดับน้ำอยู่ตลอด ห้ามปล่อยให้น้ำกลั่นแห้ง ค่าแอมป์ และ ค่า CCA น้อยกว่าแบตเตอรี่แห้ง

2.      แบตเตอรี่แบบแห้ง

เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น แต่ไม่ได้แห้งสนิทตัวแบตเตอรี่ยังคงมีของเหลวอยู่ภายใน ทั้งตะกั่ว-กรดที่ใช้แคดเมี่ยมและตะกั่วในแผ่นเซลล์หรือพวกที่ใช้สารละลายอัลคาไลน์ แบตแห้งจะไม่มีฝา เปิด-ปิด เหมือนแบตแบบน้ำบางครั้งจะถูกซีลทับฝาติดกัน แต่สามารถเช็คระดับน้ำ และ ระดับไฟ อายุใช้งาน โดยมองผ่านตาแมวสำหรับตรวจเช็ค

ข้อดี : ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีแอมป์สูงกว่า และ ค่า CCA เยอะกว่าแบตแบบน้ำ

ข้อเสีย : ราคาสูง มีโอกาสอุดตันได้ง่ายเนื่องจากเป็นระบบปิดที่มีรูระบายแบบทางเดียว และรูมีขนาดเล็ก

3.      แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง

เป็นแบตเตอรี่ที่มีลักษณะคล้ายกับแบตเตอรี่แบบแห้ง แต่จะยังมีรูให้เติมน้ำกลั่นอยู่ แต่การเติมจะอยู่ที่ 1-2 ครั้งต่อปีเท่านั้น แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งมีความทนทานสูง เหมาะสำหรับคนที่ใช้รถบ่อย แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลสักเท่าไหร่

ข้อดี : ราคาถูกกว่าแบตแบบแห้ง ทนทานสูง เติมน้ำกลั่นแค่ปีละ 1 - 2 ครั้ง

ข้อเสีย : ยังคงต้องคอยดูระดับของน้ำกลั่นอยู่ แต่นานๆ ครั้ง

4.      แบตเตอรี่แบบไฮบริด

แบตเตอรี่แบบไฮบริด เป็นแบตเตอรี่ผสมระหว่าง แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง และ แบตเตอรี่แบบน้ำ  แต่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยๆ เหมือนแบบน้ำ และสามารถตรวจเช็คระดับน้ำได้ง่าย ในอนาคตแบตเตอรี่แบบไฮบริดน่าจะถูกนำมาใช้แทนแบตเตอรี่แบบน้ำทั้งหมด

ข้อดี : ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ ดูแลรักษาง่ายกว่า แบตเตอรี่รถยนต์แบบน้ำ

ข้อเสีย : ราคาแบตเตอรี่แบบไฮบริด สูงกว่าแบตเตอรี่แบบน้ำ และยังคงต้องคอยตรวจเช็คและเติมน้ำกลั่นอยู่

ลองดูว่าข้อดีข้อเสียของแบตเตอรี่แต่ละประเภทเป็นแบบยังไง แล้วแบตเตอรี่แบบไหนตอบโจทย์กับการใช้งานรถยนต์ของคุณมากที่สุด สะดวกแบบไหนก็เลือกแบบนั้นได้เลย เพราะแบตเตอรี่แต่ละประเภทก็ต่างมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันไป

ถ้าเลือกแบตเตอรี่ได้แล้วก็อย่าลืมไปเลือกซื้ออุปกรณ์แต่งรถสวยๆ คุณภาพดีๆ กันที่ Visa Autoshop ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ พร้อมติดตั้ง สามารถเข้าไปดูสินค้าได้ที่ https://www.visa-autoshop.com/  หรือ https://www.facebook.com/visaautoshop/